สวัสดีครับ ทุกๆวันเสาร์แบบนี้เราจะมารีวิวแอนนิเมชันสไตล์บ้านๆกัน
ไม่ว่าจะเป็น Short Film,Feature Film จะสั้นจะยาวไม่จำกัด
ตั้งแต่ผลงานระดับนักศึกษาไปจนถึงผลงานระดับโลกเราก็รีวิวได้หมด
และสำหรับวันนี้เราจะมารีวิวแอนนิเมชันเรื่อง Bear Story นั่นเอง
Bear Story (Historia de un oso)
Short Film Animation 10:36 Min.
Studio Punkrobot Animation Studio (Chile)
Director Gabriel Osorio
Bear Story แอนนิเมชันสั้นสัญชาติชิลีที่กวาดรางวัลมาแล้วอย่างมากมายทั่วโลก และรางวัลใหญ่ล่าสุดที่สามารถคว้ามาได้นั่นก็คือรางวัลออสการ์สาขาแอนนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม
(Short Film Animated) นั่นเองถือเป็นภาพยนตร์ชิลีเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลออสการ์อีกด้วย

Gabriel Osorio (Director) และ Pato Escala(Producer) กับรางวัลออสการ์
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวถูกเล่าผ่านชีวิตของคุณลุงหมีผู้มีชีวิตอยู่เพียงลำพัง ช่วงต้นของเรื่องเราได้เห็นภาพ
วิถีชีวิตของลุงหมี เริ่มจากการซ่อมกล่องตุ๊กตาไขลาน และเรายังได้เห็นสภาพครอบครัวของลุงหมีที่เคยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา จากหลายๆ ฉาก เช่น ฉากเตียงนอน, ห้องนอนลูก, โต๊ะกินข้าว
หรือภาพถ่ายครอบครัวที่ปรากฎอยู่หลายๆครั้ง ซึ่งเป็นการเปิดประเด็นที่น่าสนใจ คำถามคือ
ลูกเมียของลุงหายไปไหน?
และช่วงกลางเรื่อง หนังก็ได้ตอบคำถามนั้นผ่านเรื่องราวในกล่องไขลาน เมื่อคณะละครสัตว์
ที่เข้ามาในเมืองที่ครอบครัวลุงหมีอยู่ และคนกลุ่มหนึ่งก็ออกมาตามล่าสัตว์ต่างๆ เพื่อบังคับ
ไปอยู่ในคณะละครสัตว์ และลุงหมีก็ถูกจับให้พลัดพรากจากครอบครัว หลังจากถูกจับมายัง
คณะละครสัตว์ ลุงหมีก็ถูกบังครับขู่เข็นให้ทำการแสดงอย่างไม่เต็มใจ ถูกจับขังในกรง
ถูกทำร้ายร่างกายจนเวลาล่วงเลยผ่านไป
ช่วงท้ายของเรื่องจบลงที่ลุงหมีสามารถหนีออกมาได้และกลับมายังบ้านของตน
ได้พบกับลูกเมีย และเรื่องก็จบลงอย่างมีความสุข
ในเชิงเทคนิค
แอนนิเมชันเรื่องนี้ผมมองว่าไม่ได้มีความหวือหวาอลังการเลย ภาพก็อยู่ในระดับปกติ
การเคลื่อนไหวก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก ช่วงเปิดเรื่องยังแอบคิดว่ามันน่าจะสวยกว่านี้นะ
แต่สิ่งที่ประทับใจและเป็นสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราอึ้งคือในช่วงที่เล่าเหตุการณ์ในกล่อง
ไขลาน มีการคุมตรีมอาร์ตได้เป็นอย่างดี การเล่าเรื่องไม่ได้เกินจริง แต่ยังคงอ้างอิงถึงกลไกต่างๆ ทำให้เรายังคงรู้สึกว่าเรื่องถูกเล่าในกล่องเล็กๆใบนั้นอยู่ ในขณะเดียวกันก็สามารถสื่ออารมณ์
ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดีการเล่าเรื่องและการเรียบเรียง ที่ทำออกมาได้
เป็นอย่างไร้ที่ติ เนื้อเรื่องเข้มข้นและประเด็นหนักกว่าแอนนิเมชันสั้นหลายๆเรื่อง
ที่เคยได้รับรางวัลนี้มาก่อนด้วยซ้ำ
มีหลายๆประเด็นที่น่าสนใจและอยากจะพูดถึงจากภาพยนตร์สั้นๆเรื่องนี้
1. สภาพสังคมและการเมืองที่ถูกถ่ายทอดอย่างปราณีต
เหตุการณ์ภายในกล่องไขลานนั้น เป็นการเปรียบเทียบการรัฐประหารในประเทศชิลี เมื่อปี 1973 เหตุการรัฐประหารครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งเหตุการณ์ที่สำคัญในประวัติศาสตร์โลกเลยก็ว่าได้
การรัฐประหารที่นำโดย นายพล ออกุสโต ปิโนเชต์ อดีตผู้บัญชาการทหารชิลี ผู้ก่อรัฐประหาร
โค่นรัฐบาลมาร์กซิสต์ที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี 1973 โดยอ้างว่าต้องการช่วยประเทศให้หลุดพ้นจากระบอบคอมมิวนิสต์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดช่วงที่เขาปกครองชิลีในระหว่างปี1973-1990
ไม่ว่าจะเป็นการลักพาตัว ทรมาน และสังหารหมู่ประชาชน การละเมิดสิทธิมนุษยชน
ล้วนทำให้ผู้คนทั่วโลกตกตะลึง เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบถึงวิถีชีวิตของประชาชนชิลีโดยตรง
อย่างหลีกเลียงไม่ได้ และยังคงเป็นบาดแผลที่ตราตรึงในใจของประชาชนชาวชิลีมาจนถึงทุกวันนี้ จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้
2. กล่องเก็บความสุข ที่ถูกแทนด้วยกล่องไขลาน
สิ่งที่เราเห็นคือเรื่องราวภายในกล่องที่ถูกดัดแปลงแต่งแต้มโดยตัวลุงหมีเอง เพื่อเติมเต็ม
สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิตและแก้ไขให้จบอย่างมีความสุข หนังไม่ได้บอกเราว่าแท้จริงแล้ว
เรื่องราวชีวิตของครอบครัวลุงหมีนั้นจบลงอย่างไร แต่เราก็พอจะเดาได้ว่ามันไม่ได้จบลง
อย่างมีความสุขแบบเดียวกับในกล่องไขลานนั้นแน่ๆ ความพิเศษของกล่องไขลานก็คือ
เราสามารถไขลานให้มันเล่นใหม่ได้เรื่อยๆ เท่าที่เราต้องการ
3. บาดแผลที่เราไม่ได้สร้าง
เหตุการณ์ร้ายๆที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของลุงหมีนั้นเราจะเห็นว่ามันไม่ใช่ความผิดพลาด
หรือผลกระทบจากลุงหมีเลย แต่หากเป็นผลกระทบมาจากการกระทำของคนอื่น
เมื่อมีความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้น ไม่ว่าระดับใหญ่ขนาดสงครามโลกหรือระดับเล็กๆ
อย่างการเมืองท้องถิ่น มันมักจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และสร้างบาดแผลแก่ประชาชนตาดำๆอยู่เสมอ
Trailer
เป็นยังไงกันบ้างครับ กับภาพยนตร์สั้นๆเรื่องนี้ เรียกได้ว่าสมกับรางวัลจริงๆ
แล้วกลับมาพบกันใหม่ในวันเสาร์หน้า สำหรับเพื่อนๆที่มีผลงานที่น่าสนใจ
สามารถส่งมาให้เรารีวิวได้ที่ kaongai0.studio@gmail.com